“SWATCH” SKIN Irony นาฬิกาบางแกร่ง นิยามแห่งความคลาสสิคยุคใหม่

หากให้พูดถึงแบรนด์ Swatch ทุกคนก็คงคุ้นชินกันดี ผู้นำในอุตสาหกรรมนาฬิกาจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีความตั้งใจว่า Swatch ก็คือ Second watch ของคุณ

ในปี 2018 นี้ Swatch ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด อย่าง SKIN Irony  ที่ได้สร้างความประทับใจด้วยการผสานจุดเด่นแห่งดีไซน์ และความบางของคอลเลคชั่น Skin ซึ่งคอลเลคชั่นนี้มีการสร้าง Milestone ให้กับแบรนด์ Swatch มากมาย เข้ากับวัสดุที่มีความทนทานและสวยงามอย่าง Stainless Steel ด้วยความบางเพียง 5.8 มิลลิเมตรเท่านั้น และถือเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้ Stainless Steel เป็นวัสดุในการผลิตที่มีความบางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา ตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกนาฬิกาแบบใหม่ที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน

“สำหรับคอลเลคชั่น SKIN Irony นี้ เราตั้งเป้าที่จะสร้างสรรค์สไตล์ใหม่ แบบคนรุ่นใหม่..เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความซับซ้อน” – Carlos Giordanetti ,Creative Director ของ Swatch ได้กล่าวไว้

โดยในครั้งนี้ ได้รับการถ่ายทอด Life Style ผ่าน Influencer ถึง 3 คน อย่างดารัน แมน และพีเค ที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราว เพื่อสะท้อนให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้สวมใส่ ในแบบที่แตกต่าง แต่ลงตัว ด้วยคอนเซ็ปต์ #FutureClassic ซึ่งนับเป็นการนิยามนาฬิกาแนวคลาสสิคแห่งยุคใหม่ ที่มีความล้ำสมัย และหรูหรา แถมยังถูกออกแบบมาให้ดูมีความ minimal อย่างแท้จริง ถึงสีสันจะไม่มากมาย แต่ตัวเลือกดีไซน์นั้นตอบโจทย์ ทั้งความเป็นผู้ชายมีสไตล์ทันสมัย และผู้หญิงที่มีความมั่นใจกันเลย อีกทั้งยังคงเดินตาม 3 หัวใจสำคัญของคอลเลคชั่นนี้อีกด้วย

Minimalistic reduction..
ดีไซน์เรียบง่าย สะอาด สำหรับผู้ที่รักนาฬิกาตัวเรือนบาง และทันสมัย
Pure chic..

นี่เป็นนาฬิกาที่ใส่ได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย (unisex) และบ่งบอกสไตล์สวยงามโฉบเฉี่ยวทันสมัย ที่คุณใส่แล้วจะไม่อยากถอดออกเลยทีเดียว
Lifestyle statement..
สีสันและดีไซน์ของนาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา แฝงด้วยความสปอตตี้เล็กๆแบบนักกีฬา ตามเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน

SWATCH Future Classic “ดารัณ”

     “ดารัณ” เศรษฐณิช ชนวราสุทธิศิริ สาวน้อยหน้าใสลูกครึ่งไทย-นิวซีแลนด์ ผู้ผ่านการประกวดจากเวที The Face Thailand มาแล้วถึง 2 Season ไม่ใช่เพียงเด็กน้อยผู้อ่อนแอในภาพจำของผู้ติดตามรายการอีกต่อไปแล้ว ในวันนี้ความเปลี่ยนแปลงของเธอไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อสกุลที่ถูกทำให้แตกต่างออกไปจากเดิม แต่ดารัณยังได้ก้าวผ่าน “กาลเวลา” ของชีวิตที่ทำให้เธอดูงดงามขึ้นด้วยความมั่นใจที่ฉายชัด ความเป็นมืออาชีพ ความรู้ และทักษะในการทำงานที่แสดงออกมา…

นิยามความคลาสสิคสำหรับดารัณ คือความเป็นต้นฉบับ หรือต้นแบบที่มีคุณค่าข้ามกาลเวลา สำหรับเธอแล้วความคลาสสิคก็เปรียบได้กับอาหารจานหนึ่ง ที่รสชาติและรูปแบบในจานเหล่านั้นต้องบ่งบอกถึงสัญชาติและความเป็นต้นตำรับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวมันเองได้ สิ่งที่คลาสสิคจึงเป็นสิ่งเฉพาะที่ขับเน้นและแสดงตัวตนของสิ่งเหล่านั้น ซึ่งแสดงคุณค่าผ่านเอกลักษณ์ ภายใต้ความเรียบง่าย แต่หรูหรา และเปี่ยมไปด้วยมูลค่าของมัน

หากกล่าวถึงบุคคลคลาสสิคในมุมมองของดารัณแล้ว เธอมองว่าความเป็นตัวของตัวเองคือเอกลักษณ์อันเด่นชัดที่สุด ที่จะทำให้ผู้คนดูมีคุณค่าแตกต่างไปจากคนอื่น ๆ คุณค่าจากภายในเหล่านี้จะเป็นสิ่งสะท้อนที่แสดงภาพของความ “คลาสสิค” ในผู้คนให้โลกภายนอกได้รับรู้

กาลเวลานำพาหลายสิ่งเข้ามาและจากไป
แต่ความคลาสสิคในหัวใจของดารัณ คือสิ่งที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์อันข้ามกาลเวลา…


 

SWATCH Future Classic “พีเค”

    มาดกวน ๆ และคาแร็กเตอร์ของเด็กซน ๆ จากหนุ่มน้อยนักเรียนนอกผู้มีความสนใจด้านจิตวิทยา ทำให้ “พีเค” พัสกร วรรณศิริกุล ได้รับความสนใจและถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในระยะเวลาไม่นาน ในวันนี้กาลเวลาได้นำพาโอกาสใหม่ ๆ แห่งวงการบันเทิงให้เข้ามาพบเจอกับชีวิตของเขา และทำให้ผู้คนได้รู้จักกับมุมมองเบื้องลึก ที่แฝงไปด้วย ความน่ารัก บุคลิกอันจริงใจ และความเป็นสุภาพบุรุษ ที่เป็นพลังขับเคลื่อนตัวของเขาเองและยังเป็นพลังงานที่หล่อเลี้ยงผู้คนรอบ ๆ กายอีกด้วย..

ความคลาสสิคในสายตาของพีเค คือ “ความดีงาม” ที่ไม่ถูกผูกมัดด้วยข้อจำกัดของ “กาลเวลา” สำหรับพีเคแล้วไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นไหน ๆ ช่วงวัยใด ๆ ความคลาสสิคจะเป็นสิ่งที่คงอยู่ และถูกตอบรับในสถานะของสิ่งที่เคยเป็นสิ่งที่ดี ยังคงเป็นสิ่งที่ดี และจะทำหน้าที่ส่งทอดคุณค่าของความดีงามของมันต่อไปอย่างที่มันควรจะเป็น “คลาสสิค” จึงเป็นสิ่งที่สถิตอยู่บนเพดานของสิ่งที่ดีงามที่มนุษย์มองเห็น

สำหรับพีเคแล้วนาฬิกาที่คลาสสิคซักเรือนหนึ่งคือนาฬิกาที่จะมอบความสุขกับตัวเขาเองในทุกครั้งที่ได้สวมใส่ และมีมันไปได้เรื่อย ๆ แม้ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน นอกจากนั้นแล้วนาฬิกาเรือนนั้นยังควรจะเป็นสิ่งส่งต่อที่เขาสามารถมอบมันให้กับ “ลูก” ของเขาต่อไปได้ใน “อนาคต”

เพราะความคลาสสิค คือความดีงามที่ข้ามกาลเวลา…


 

SWATCH Future Classic “แมน”

“แมน” ธฤษณุ สรนันท์ ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-เดนมาร์กเจ้าของหุ่นนักกีฬาและส่วนสูง 190 เซนติเมตร กับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ของเขาอาจเป็นภาพที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนหลงใหลในฐานะผู้ชายมาดอบอุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ในใบเบิกทางที่ซื้อโอกาสให้ผู้คนได้รู้จักเขามากขึ้นผ่านความสามารถอันหลากหลายที่ถูกกาลเวลาชักนำมาประดับอยู่บนพื้นที่จอแก้วในห้วงเวลาปัจจุบัน…

    “เรื่องราวและการส่งผ่าน” คือ ความคลาสสิคในมุมมองของแมน สำหรับเขาแล้วทุกความ “คลาสสิค” มีจุดเริ่มต้นจากเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดและถูกเก็บรักษามาเป็นเวลาช้านาน เป็นเรื่องราวที่ได้รับการยอมรับและทำให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในวันวาน – ณ วันนี้ และคืนวันต่อ ๆ ไปในอนาคตข้างหน้า เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ล้วนมีส่วนในการบ่มเพาะและสร้างคุณค่าของความ “คลาสสิค” ให้มีอยู่โดยไม่เลือนหาย และไม่เสื่อมคลาย

    ภาพยนตร์แห่งความคลาสสิกในใจของแมน คือภาพยนตร์แก๊งส์เตอร์ที่มีเรื่องราวที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างตัวเขาในวัยเด็กกับพ่อที่ได้ชักนำเด็กผู้ชายคนหนึ่งให้เขาสู่โลกของความรักในภาพยนตร์ และหลงไหลในเรื่องราวของเหล่ามาเฟีย

วันเวลาทำให้เนื้อสีบนแผ่นฟิล์มจางลงไปตามความเก่า
แต่สำหรับแมนแล้วเรื่องราวในภาพยนตร์คือความคลาสสิค


Special thanks : Swatch

https://www.swatch.com/th_th/

Credits
Photographer : Patarit Pinyopiphat
Stylist : Sutsiri Nimraung, Salalee Sombutmee
MUA & Hair : Chawalit Chumsiri
Fashion Producer : Sunicha Suparat
Photographer’s Assistant : Sithipong TiyawarakulApiwat Netbood, Praweena Fangrew, Copter Chaosaowpa
Text : Thima Maipang