ด้วย style ที่น่าสนใจ บวกกับนิสัยที่สุภาพ อ่อนน้อม ทุกครั้งที่เราได้ร่วมงานกัน “เบล” จึงเป็นคนที่เราเลือกมาพูดคุยกันในคอลัมน์ THAI KIDS ARE ALRIGHT เป็นคนแรก
“Bell” Wajjakorn Chatchawalthipakorn (23)
เบล วัจน์กร ชัชวาลทิพากร
IG : bell_wajjakorn
ตอนนี้ทำอะไรอยู่บ้าง
เบล : ช่วยงานที่บ้านอยู่ครับทำเกี่ยวกับโลจิสติกส์ และก็เดินแบบ ถ่ายแบบบ้าง เล่นละครครับ
เริ่มเข้าวงการได้ยังไง
เบล : เริ่มตอน ม.4 ครับ ตอนนั้นเป็นลีดจตุรมิตรของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แล้วที่เว็บไซต์เด็กดีเรียกเราไปถ่ายคอลัมน์ในนั้นแล้วก็ค่อยๆเริ่มมาเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มได้เล่นหนังแล้วก็เพิ่งได้เซ็นสัญญากับบริษัทนึงไป
ชอบอะไรมากกกว่ากัน
เบล : ชอบหนังสุด ถ้าละครมันจะดูยากไปอีกศาสตร์นึง ถ้าเป็นหนังมันจะดูเป็นตัวเราอยู่บ้าง เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า
อะไรคือจุดเด่น
เบล : ถ้าภายนอกก็คงเป็น ผอม ขาว ตี๋ดูเกาหลีๆมั้งครับที่พอเป็นจุดเด่นจุดขายได้ ถ้าภายในก็เป็นความสนุกสนานครับ
บุคคลต้นแบบ
เบล : คงเป็นคุณพ่อครับ เป็นต้นแบบสำหรับผมมากๆใน เรื่องความขยัน พ่อเค้าเป็นคนขยันมาตั้งแต่เด็ก เค้าจบแค่ป.4 แต่เค้าขยัน ตั้งใจจนมีทุกวันนี้ได้ อีกคนที่ชอบมากๆก็คือจีดราก้อนครับ โคตรเท่เลยครับ จะทำอะไรนี่เท่ไปหมด อยากเป็นแบบนั้นได้บ้าง 5555
ได้อะไรจากวงการบ้าง
เบล : ได้ความรับผิดชอบครับ ทั้งต่อบทที่ได้รับต่อหน้าที่ต่อทุกฝ่าย มันเหมือนเป็นส่วนรวมอ่ะครับ เราช้าเราพลาดเราไม่เต็มที่ เราเล่นไม่ได้ มันก็ทำให้คนอื่นๆช้ากันไปด้วย ช้ากันทั้งงาน ส่งผลกระทบไปกับทุกๆคน มันก็ไม่โอเค ก็ต้องจัดสรรตัวเองดีๆ ไม่เป็นภาระคนอื่น
crazy อะไรอยุ่ตอนนี้
เบล : ก็สนใจเกี่ยวกับแฟชั่น พวกเสื้อผ้าเพราะตอนนี้กำลังทำทำแบรนด์เสื้อผ้ากับเพื่อนๆอยู่ครับ แล้วก็ชอบประเทศญี่ปุ่นครับ
ทำไมชอบไปญี่ปุ่น
เบล : ชอบครับ ชอบบ้านเมืองเค้า คุณภาพคนเค้าดีมาก เค้าแคร์คนมาก ทางม้าลายรถก็หยุดให้ คนก้มหัวให้กันตลอดเวลา ประเทศเค้ามีระบบดี และอีกอย่างก็ชอบไปช็อปปิ้งครับ
แนวเพลงที่ชอบ
เบล : ชอบฟังเพลงไทยครับแบบดราม่าๆ potato วงmild ทั่วไปเลยครับเพลงตลาดๆ ถ้าอินๆตอนนี้ก็เพลง อ้าวเฮ้ย ของอะตอมครับ เพลินๆดี ร้องตามได้เฉยเลย เนื้อหาก็โดน เอาจริงๆก็อิน 555
ภาพยนตร์
เบล : จะชอบดูพวกที่โรคจิตๆ เครียดๆกดประสาทหน่อย อย่างPrisoners ดูไปก็เครียดไปทั้งเรื่อง
เบลตอนเด็กๆ
เบล : มีครั้งนึงอาม่าไม่ให้ออกไปเล่นข้างนอก พี่ผมก็ปีนออกไปได้แต่ผมไม่ได้ไงไม่กล้าปีน แต่ก็อยากออก ก็เอามีดมาแล้วโทรหาป๊าร้องไห้บอกป๊าจะฆ่าตัวตาย อาม่าไม่ให้ออกไปเล่นข้างนอก ก็ไม่รู้ตอนนั้นทำไปได้ยังไงเหมือนกัน
ความผิดพลาดในชีวิต
เบล : สัก5-6 ปีที่แล้ว เคยทำตัวไม่ดีในเรื่องความรักครับเคยไม่ค่อยสนใจ มีแฟนก็เหมือนไม่มี ไม่ลงรูปเค้าไม่ค่อยแสดงออกถึงการมีตัวตนของเค้าเท่าไหร่ ไม่แคร์เท่าที่ควร จนเสียเค้าไป พอวันนึงเราโดนแบบนั้นบ้างมันรู้สึกไม่ดีมากๆ เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่ พยายามไม่ทำแบบนั้นอีกเพราะคงไม่มีใครทนเราได้ และมันก็ไม่ดีกับคนที่เรารักด้วยครับ
ความภูมิใจในชีวิต
เบล : พ่อผมเค้าจะไม่ค่อยสนับสนุนเรื่องทำงานในวงการเท่าไหร่ แล้วเหมือนเป็นงานเปิดตัวหนังเรื่องแรก ก็ลองชวนเค้าไปเล่นๆ คิดว่าเค้าคงไม่ไปแน่ๆอยู่แล้ว แต่เค้าไป เราก็รู้สึกภูมิใจลึกๆที่เค้ายอมรับเรา เหมือนเป็นการพิสูจน์ให้เค้าเห็นความตั้งใจจริงๆของเรากับตรงนี้ ซึ่งตอนนี้เค้าก็ยอมรับและไม่ได้แอนตี้อะไรเท่าแต่ก่อน
เรื่องราวความรัก
เบล : เคยร้องไห้ 4เดือนเรื่องแฟนคนแรก มันฝังใจผมมากๆ เรื่องที่ผมไม่ค่อยใส่ใจเค้า เค้าคงน้อยใจและไปจากเราจริงๆ เค้ามีคนที่ดีกว่าเค้าก็ไป ตอนที่รู้ว่าเค้าคุยกับคนอื่นแล้วเราก็เสียใจหนักมาก มันก็ถูกของเค้าแหละที่ผมไม่สนใจเค้าก่อนเอง คบกันมาตั้ง4ปี
มุมมองกับ การเปลี่ยนแปลง generation
เบล : สมัยนี้รักอิสระ เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อย่างเรื่องทำงานก็ไม่ค่อยทน ทำไม่นานก็ออกเปลี่ยนไปเรื่อยๆแต่ เทียบกับเมื่อก่อนสมัยพ่อแม่เรานี่ ไล่ก็ไม่ออก ยังไงก็จะอยู่ สมัยนี้ความอดทนมันต่างกันมาก
ความคาดหวังของปีนี้
เบล : ปีนี้ต้องเปิดตัวแบรนเสื้อให้ได้ หุ้นกันกับเพื่อน ครับ
มองภาพอนาคตตัวเองตอน 30 จะเป็นยังไงบ้าง
เบล : ก็ต้องเป็นคนมีเงิน มั่นคง ไปเที่ยวที่ที่เราอยากไปได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเงิน หลายๆอย่างในชีวิตเข้าที่เข้าทางแล้ว
ในมุมมองคนรุ่นใหม่คิดว่าอะไรเป็นปัญหาสำคัญสุดในสังคม
เบล : ความคิดของคนที่เห็นต่าง ใครคิดต่างก็ด่าเค้าหมด ความคิดคนเรามันไม่เหมือนกัน คนสมัยนี้ต้องคิดให้เหมือนกันถึงเป็นเรื่องที่ถูก คิดต่างคือผิด ซึ่งมันไม่ใช่เลย ความคิดเราบังคับกันไม่ได้ ผิดถูกให้ดูที่การกระทำน่าจะดีกว่า
แล้วถ้าเรามีอำนาจ อยากแก้อะไรกับประเทศไทย
เบล : ถ้าแก้แล้วหายไปได้เลยใช่ไหม รถติดครับ เกลียดรถติดมาก รู้สึกว่าน่าจะเอางานในกรุงเทพ กระจายไปต่างจังหวัดบ้างเพราะคนจะได้ไม่ต้องเข้ามาแออัดกันแต่ในกรุงเทพ คนต่างจังหวัดจะได้อยู่บ้านเกิดและได้ทำงานที่ต้องการไปด้วย เพราะช่วงปีใหม่หรือเทศกาลกรุงเทพก็ดูโล่งมาก ถ้าแก้ได้จริงก็น่าจะดีขึ้น
ฝาก บอกอะไรกับเด็กๆสมัยนี้บ้าง
เบล : ก็ใช้ชีวิตให้คุ้มนะ เที่ยวให้เยอะ อยากทำอะไรทำเลย วัยนี้แหละมีโอกาสทำได้มากที่สุดแล้ว ก่อนที่จะต้องแบกรับความรับผิดชอบอีกมากมาย
Credits :
Text : Praweena fangrew
Photographer : Patarit Pinyopiphat
Stylist : Jakkaphong Kirdtongkum