ก่อนตีห้าอีกมั้งที่พวกเขาเริ่มพ่นไฟใส่ลูกโป่งจนพองโต
ใหญ่ประมาณหนึ่ง โปร่งจนสามารถพาตะกล้าหนึ่งใบลอยขึ้นไป
สูงจนเห็นขอบโลก สูงจนลืมว่าความสูงมันน่ากลัว
คัปปาโดเกีย ไม่ใช่ปลายทางเดียวในตุรกีที่เราได้เลยผ่าน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ทัศนียภาพตรงนี้มักต้องเป็นทิวทัศน์อันดับแรก หากเราได้แนะนำให้ใครก็ตาม “คัปปาโดเกีย! มึงห้ามพลาดเลย ที่อื่นช่างมันได้เลย” อย่างเช่นที่เราเพิ่งแนะนำ (อย่างเป็นกลาง) กับเพื่อนสนิทที่วางแผนจะไปในช่วงต้นปีถัดไป
“บอลลูนของเรากำลังจะสัมผัสท้องฟ้าที่ความสูง 800 เมตร ต้องขอโทษด้วยเพราะบริษัทได้จำกัดความสูงของเราไว้ที่ระดับนี้”
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว มุสตาฟา กัปตันบอลลูนชาวอียิปต์บอกกับเราอย่างนิ่มนวล เวลาหกนาฬิกากับเศษนาที เรากำลังลอยเท้งอยู่บนจุดสูงสุด พระอาทิตย์เริ่มปรายแสงสีส้มออกมาแล้ว จากตรงนี้ คัปปาโดเกียที่ชั่วโมงก่อนนั้นมืดแทบสนิท กลับเริ่มมีมิติด้วยแสงและเหงา วันนี้เราโชคดีที่อากาศดี
“ผมอยากบอกว่า พวกคุณเป็นผู้โดยสารที่น่ารักมาก ผมชอบคนไทยนะ ถ้าเราลอยสูงกว่านี้อีกสัก 100 เมตร คงจะไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ”
แน่นอนว่าเราพอรู้ว่าผู้ชายที่นี่ค่อนข้างปากหวาน เราก็เพียงหวังว่าเขาจะชอบเราอย่างที่บอกไว้จริง ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าไม่คิดมากคงดีกว่า เพราะภาพตรงหน้าคงจะไม่ได้เห็นทุกวัน
Photo & Text : Sithipong Tiyawarakul
Special Thanks : Travel Around the World Magazine, Go Holiday Tour