ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยเสียงเพลงของ “เมย์” ชูชีวา ชีพชล กับการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะเป็นศิลปินเดี่ยว

ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยเสียงเพลงของ เมย์-ชูชีวา ชีพชล สาวมากความสามารถที่เป็นทั้งนักดนตรี เจ้าของแบรนด์ รวมไปถึงโปรโมเตอร์คอนเสิร์ตสุดแนว มาวันนี้เมย์ตัดสินใจพับความเป็นอินดี้ร็อคกับวง fwends ไว้ชั่วคราว ก่อนเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวเต็มตัว กับเพลงที่มีชื่อว่า ‘Do you mind?’ มาร่วมพูดคุยถึงตัวตน ความรัก ความฝันที่ไม่เหมือนใคร จนอาจทำให้คุณกลายเป็นทั้งแฟน(เพลง)เก่าและใหม่ที่ตกหลุมรักเธอไป โดยไม่ทันรู้ตัว

“สวัสดีค่ะ เมย์ค่ะ ชูชีวา ชีพชล ค่ะ”

ช่วงนี้ทำอะไรอยู่บ้าง อัพเดทหน่อย
ตอนนี้หลักๆ ก็โฟกัสดนตรีที่เป็นโปรเจ็คเดี่ยวของตัวเองอยู่ค่ะ ใช้ชื่อว่า Chucheewa แล้วก็ยังทำแบรนด์เสื้อผ้า cornerstone.bkk กับแบรนด์เครื่องสำอางที่ชื่อว่า lohastone.co คอนเสิร์ตที่ชื่อว่า conflakes.bkk ก็ยังทำอยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ก็ช่วยที่บ้านทำเกี่ยวกับออยล์ที่มาจากน้ำมันกัญชาสำหรับใช้รักษาโรคค่ะ ประมาณนี้

ไลฟ์สไตล์ของเมย์เป็นแบบไหน
เป็นคนแบบไหนเหนี่ย (หัวเราะ) ..น่าจะเป็นคนไฮเปอร์มั้งคะ เมย์ไม่ชอบอยู่เฉยๆ อ่ะ บางทีเมย์ก็ใช้ชีวิตฮาร์ดกับตัวเองมากเหมือนกัน พรุ่งนี้จะต้องทำอะไร อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ เมย์แพลนจะไปทำอะไร 3 ปีเมย์จะไปอยู่ไหน มันเลยทำให้เมย์คิดเยอะมาก อย่างตอนนี้เราโฟกัสดนตรี เพราะอีก 5 ปีเราอาจจะแก่แล้ว อยากจะแบบจัดคอนเสิร์ตอย่างเดียว ไม่อยากจะเล่นดนตรีแล้ว อะไรอย่างนี้ เมย์จะคิดเยอะค่ะ แต่ก็พยายามบอกกับตัวเองว่า ต้องมีวันที่เมย์ได้นอนอยู่เฉยๆ บ้าง อันนี้คือโกลด์ของปีนี้ ต้องได้ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดเรื่องอะไรบ้าง

แล้วการแต่งตัวล่ะ เจอสไตล์ของตัวเองได้ยังไง
ตั้งแต่เด็กเราเป็นคนสนใจเสื้อผ้า เราจะชอบหยิบนู่นหยิบนี่มาแมตช์ เราเป็นคนสนใจเรื่องสี สีนี้มันคู่กับอันนี้ มันใส่ด้วยกัน มันเข้ากันไหม แต่ว่าเมย์เป็นคนที่ไม่ได้ตามแฟชั่นเลย เพราะตามไม่ทัน เมย์จะเลือกหยิบบางอย่างที่ยังใส่สบายและเป็นเราอยู่ เน้นตามอากาศ เน้นตามกาลเทศะ เราว่าทุกคนรู้ เวลาเราใส่เสื้อผ้าตัวนี้มันเป็นเรา แค่นั้นเลย บางทีคนรอบตัวจะบอกว่า อันนี้ดูเป็นเมย์มากเลยนะ แต่เมย์ไม่รู้หรอก เมย์ก็ชอบไปเรื่อย

แบรนด์เสื้อผ้ากับเครื่องสำอาง เริ่มต้นมาจากอะไร
ตอนนั้นประมาณปลายปี 2012 มีเพื่อนสนิทคนหนึ่งชื่อว่า แพร แต่งตัวเหมือนกัน แต่ว่าหาเสื้อผ้าใส่ยาก เพราะว่าตัวเล็ก ต้องไปซื้อเสื้อผ้าเด็ก เราก็คุยกันว่า เราอยากเริ่มทำธุรกิจซักอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเสื้อผ้า แล้วเป็นเสื้อผ้าที่เราได้ใส่จริงๆ ด้วย อะไรอย่างนี้ค่ะ ส่วนชื่อ cornerstone.bkk มาจากเพลงที่เมย์ชอบฟังเพลงที่ชื่อว่า cornerstone ของ Artic monkeys ค่ะ ความหมายของ cornerstone มันคือหินที่เป็นหัวใจสำคัญที่ยึดทุกอย่างเอาไว้ให้มันอยู่ ส่วนแบรนด์เครื่องสำอางมันเกิดจากเมย์อยากทำแบรนด์ที่ยัง related กับ cornerstone อยู่ เน้นออแกนิคธรรมชาติอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็คิดว่ายังอยากมีคำว่า stone อยู่ เลยนึกถึงคำว่า aloha เพราะว่าแบรนด์ เรามีความเป็น beach babe vibes มากๆ พอตัดตัวเอออกเป็น loha แล้วเอา stone มาต่อเป็น lohastone ให้มันยังเป็นแบรนด์ที่ยังอยู่ด้วยกัน

กิจกรรมแน่นขนาดนี้ มีวิธีจัดการเวลายังไงบ้าง
ก็แพลนค่ะ เมื่อก่อนชีวิตเมย์แย่มาก เพราะว่าเมย์ทำหลายอย่างเกินไป ทุกคนอาจจะมองว่า เห้ย เมย์ทำได้ยังไงเหนี่ย ทำไมเมย์ถึงทำหลายอย่าง คือจริงๆ มันทำไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่คนเราต้องทำอะไรเยอะขนาดนั้น แล้วมันกลายเป็นว่าทำได้ดีที่สุดไม่ได้ซักอย่าง ทุกวันนี้เมย์จะพยายามจัดเลยว่า โอเค อาทิตย์นี้ เมย์จะต้องมี 2 วันที่เมย์แต่งเพลง ต้องมีวันที่เมย์คุยกับน้องผู้ช่วย ที่ทำธุรกิจด้วยกัน ต้องมีเวลาให้เขาด้วย ไม่งั้นธุรกิจมันก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งมันก็เริ่มลงตัวขึ้น

 

แล้วอย่างตอนที่เริ่มทำอะไรใหม่ๆ ล่ะ กังวลบ้างไหม
ไม่กลัวเลยค่ะ เมย์เป็นคน positive นะ คิดแค่ว่า ถ้าสมมติเราลงทุนทำอะไรบางอย่าง แล้วมันไม่เวิร์ค ถ้ามันก็ไม่เวิร์ค มันก็ไม่มีอะไรต้องคิดแล้ว มันก็แค่ อ๋อ ทำสิ่งนี้ได้ไม่ดีนะ เดี๋ยวไปทำสิ่งอื่นแล้วกัน เมย์คิดแค่นี้อ่ะค่ะ

จริงๆ เมย์ชอบทำอะไรมากที่สุด
มันตอบยากนะ แต่อะไรที่ทำให้หัวใจมันพองโตมากๆ ก็คือเวลาที่ เอ้ย! เพลงเสร็จ น่าจะเป็นเรื่องดนตรีที่อินที่สุด แต่ก็พูดไม่ได้นะว่าไม่อินเสื้อผ้าเครื่องสำอาง เพราะมันคือสิ่งที่โตกับผู้หญิงเราอ่ะ สำหรับเมย์ก็ประมาณนี้ ดนตรี เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ศิลปะ ก็ยังชอบอยู่

 

แล้วเป้าหมายในชีวิตของเมย์คืออะไร
เมย์จะตั้งเป็นเรื่องๆ นะ เพราะมันน่าจะอีกไกลเหมือนกัน อย่างเพลงก็ตั้งว่า ปลายปีนี้เมย์จะแต่งเพลงให้ครบอัลบั้ม แล้วค่อยดูอีกทีว่า อัลบั้มนี้ ตัวงานที่เราทำเหนี่ย มันจะพาเราไปได้ไกลที่สุดถึงตรงไหน เราไม่ได้ตั้งว่าเป้าหมายระดับโลกนะ แล้วเราค่อยมา work hard แต่เราทำงานให้เสร็จ แล้วดูว่าสิ่งที่เราทำมันพาเราไปได้ไกลแค่ไหนดีกว่าค่ะ

 

แล้วอย่างแบรนด์ที่ทำอยู่ล่ะ
เสื้อผ้าเมย์พยายามจะทำคอลเล็กชั่นน้อยลง อย่าง ปีละ 4 แบบ ก็ทำให้เหลือ 2 พยายามคิดเสื้อผ้าที่มันเก็บไว้ได้ใช้ตลอด ไม่เปลี่ยนบ่อยๆ ค่ะ เครื่องสำอางก็แพลนอยากทำครีมกันแดดที่มันไม่ทำร้ายปะการังและชีวิตสัตว์น้ำ ด้วยครีมกันแดดทุกวันนี้มันมีสารที่ทำให้ปะการัง 10% บนโลกตาย เมย์เลยอินมากว่า เห้ย! เราป้องกันผิวตัวเอง แต่เราฆ่าปะการัง มันไม่ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำ

 

แสดงว่าเมย์ชอบเที่ยวธรรมชาติ?
ชอบมาก ไปทะเลทุกเดือนเลย ใครตามเมย์ในอินสตาแกรมจะแบบ อยู่กรุงเทพบางป่ะเหนี่ย อะไรอย่างนี้ เมย์ไปทะเลเกือบทุกเดือนเลยแล้วก็แบบพยายามจะแพลนแบบ ไปเที่ยวต่างประเทศปีละครั้ง สองครั้ง ถ้าทำได้

มาเรื่องเพลงกันบ้าง เล่าถึงเพลงใหม่ที่พึ่งปล่อยออกมาให้ฟังหน่อยสิ
เพลงใหม่ที่พึ่งปล่อยออกมาเป็นเพลงที่ชื่อว่า Do you mind? ได้พี่ต้า Cyndy sui ช่วยโปรดิวซ์ดนตรีให้ แล้วก็มีน้องยูกิมาเล่นกีต้าร์ให้ เพลงนี้พี่ต้าทำบีทมาก่อน เมย์ยังไม่ได้เขียนเนื้อออกมา แต่พอเมย์ฟังแล้วเมย์รู้สึกว่า เพลงมันเป็นเพลงสนุก แล้วก็ยิ้มๆ ด้วยดนตรีก็จะเต้นๆ หน่อย เมย์ก็เลยจินตนาการซีนๆ หนึ่งที่เราไปปาร์ตี้แล้วเจอแฟนเก่า มันจะซนๆ นิดนึงเหมือนเราไปเช็คว่าเขามากับแฟนป่ะเหนี่ย มันจะมีบทสนทนาที่คุยกับผู้ชายว่า ไม่ใช่ คนนั้นแค่เพื่อน แล้วมันจะเป็นยังไงต่อก็ต้องให้คนฟังจินตนาการกันไปเอง เมย์ก็คิดว่าทุกๆ คนส่วนใหญ่น่าจะมีประสบการณ์นี้ ก็เลยเขียนประมาณนี้ เป็นเพลงแรกเลยที่เป็นเพลงแฮปปี้

 

มาจากเหตุการณ์จริงรึเปล่า?
ก็มีบ้างที่ไปเจอแล้ว อ๋อ เป็นไงบ้าง แต่ถ้าเหตุการณ์จริงนะ ไม่ค่อยรู้สึกถ่านไฟเก่ามันร้อนอะไรเท่าไหร่ เพราะปกติเมย์จะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ พอไปเจอมันก็ไมไ่ด้มีความรู้สึกแบบนั้นเท่าไหร่ ในชีวิตจริงนะ

 

เมย์ chucheewa กับเมย์ fwends มีความคล้ายกันไหม
ตัวเราก็ยังเป็นตัวเรานะ คนฟังก็รู้ว่านี่เป็นเสียงเมย์ แต่ว่า แนวเพลงมันอาจจะต่าง เพราะว่า แนวเพลง fwends มันมีความเป็นอินดี้ร็อคมากๆ แต่อย่างงานเดี่ยวเมย์มันจะมีความเป็นอิเลคทริคป๊อปขึ้น

ทำเพลงเป็นวงกับทำเพลงเอง ต่างกันเยอะไหม
ต่างกันเยอะมาก ตอนที่เมย์มาทำเพลงเอง เมย์รู้สึกว่ามันอิสระดี มันเป็นความสบายใจในการทำงานคนเดียว เพราะเราไม่ต้องนึกว่าใครจะโอเคไม่โอเค แต่มันจะมีจุดที่คิดถึงโมเม้นต์เล่นดนตรีกับเพื่อน วง fwends คือ 5 คนเล่นดนตรีด้วยกัน แล้วก็เราแจมกันอ่ะค่ะ เราช่วยกันแต่งแต่ละพาร์ทของดนตรี แล้วมันจะมีเสน่ห์บางอย่าง เหมือนวงสมัยก่อนที่เราชอบฟังอ่ะ ทุกวงเขาก็เริ่มมาจากการแจมกัน มันเป็นสเน่ห์คนละแบบกับการทำเดี่ยว ซึ่งเมย์ว่ามันดีคนละแบบ

 

เพลงแบบไหน ที่เมย์ชอบฟัง
ยากมากเลยอ่ะ เหมือนไก่กับไข่เลยสำหรับเมย์ เพราะว่าเมย์ฟังเพลงกว้างมากเลยค่ะ เราฟังตั้งแต่แจ๊ส อินดี้ อิเลคทรอนิกส์ เทคโน เมย์ว่าเรื่องแนวมันยากสำหรับเมย์มากเลย เพราะว่าเราสนใจไปหมดเลย ฟังอะไรก็เอ็นจอย ถ้ามันเป็นเพลงที่ดีอ่ะ

 

เห็นว่าเมย์เป็นโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต conflake.bkk ด้วย เล่าให้เราฟังหน่อยสิ
จริงๆ เกิดมาจากเมย์กับพี่เฟรมคุยกันตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วว่าเราอยากไปดูคอนเสิร์ตวงไทยนี่แหล่ะ แต่เป็นในสถานที่ที่มันต่างไป ไม่ใช่แค่ร้านเหล้า หรือ live house ซึ่งตอนนั้นมันไม่มีเลยค่ะ เราก็เลยคิดว่าเราจะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้คนดูทุกงาน โดยเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ ให้คนได้รู้สึกใกล้ชิดขึ้น เราจะทำให้ปาร์ตี้มันอบอุ่น ไม่มีความรู้สึกเหมือน insider outsider อะไร เราอยากทำให้ปาร์ตี้ของเรามันเป็นแบบทุกคนรู้สึกเหมือนกับเขาอยู่ในที่ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าเขาอยู่ผิดที่ผิดทาง นั่นคือหลักๆ ที่ conflake พยายามทำอยู่

ทำงานในแวดวงดนตรีมาซักพักแล้ว เมย์เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
ในไทยเมย์ว่ามันคึกคักขึ้นนะ คนสนใจดนตรีนอกกระแสมากขึ้น ดูเปิดรับมากขึ้น ซึ่งเมย์ว่ามันก็ดูเป็นการเปิดรับที่ดี มันดีต่อพี่น้องนักดนตรีอินดี้ด้วย เพราะเขาสามารถหาเงินจากอาชีพนักดนตรี ด้วยสไตล์เพลงที่เขาชอบได้ แต่ถ้าตามเทรนด์โลกเลย ทุกอย่างมันเร็วมาก บางทีเพลงไหนฟังทันก็ฟัง

 

เมย์ว่าเพลงมีพลังในการเปลี่ยนแปลงความคิด ความรู้สึกไหม
สำหรับเมย์นะ เพลงมันแทบจะอยู่ในทุกอริยาบถของการใช้ชีวิต ตื่นมาอาบน้ำเมย์ก็ต้องเปิดเพลงฟัง เรารู้สึกเครียด เราก็ผ่อนคลายด้วยการเปิดเพลง เศร้าเสียใจเราก็ฟังเพลง เรามีความสุขเราก็ฟังเพลง เพลงก็ทำให้เรายิ้มกว่าเดิมอีก

 

แล้วกลับกัน เพลงทำให้เรารู้สึกดาวน์บ้างไหม
เมย์ว่ามันอยู่ที่แอตติจูดเรา เพลงมันแค่ทำให้เราดำดิ่งไปกับความเศร้านั้นได้ลึกขึ้น แต่ว่าเราจะแย่ไม่แย่ มันไม่ใช่เพลง มันคือเรา เราจะอินกับความรู้สึกนี้ไปนานแค่ไหนมากกว่า เพลงมันทำงานของมันอยู่แล้ว มันอยู่ที่เรามากกว่า

 

สำหรับเมย์ เพลงมีส่วนช่วยในการทำงานอื่นๆ อีกไหม
ช่วยค่ะ เพลงช่วยให้เรากินข้าวอร่อยขึ้น เพลงทำให้บางทีเราคิดอะไรไม่ออก พอเราฟังเพลง เราก็คิดงานออก คิดนู่นคิดนี่ออก วิ่งเรายังฟังเพลงเลยอ่ะ ถ้าเราออกกำลังกายแบบไม่ได้ฟังเพลงมันก็อาจจะเหงาๆ พอเราฟัง มันก็ฮึดขึ้น มีแรงขึ้น เมย์ว่าเพลงมันมีผลกับทุกอย่างเลย

ติดตาม เมย์ ได้ที่
IG : Chucheewa


Credits
Text : Nitsanart Nilthongkum
Photographer : Patarit Pinyopiphat
VDO : Watcharapon Seangarunroj