‘อยู่คนเดียวมันเหงา’ ไม่ใช่ประโยคบอกเล่า แต่เป็นซิงเกิลแรกของ คิน-ธนชัย ศักดิ์ชัยเจริญกุล นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้เยาวชนทีมชาติไทยผู้ควบตำแหน่งศิลปินเดี่ยวจากค่าย White Fox ในเครือ GMM Grammy
ความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เป็นส่วนผสมที่ทำให้คินสามารถวิ่งบนสนามที่ชื่อว่า นักกีฬาไอซ์ฮอกกี้ ได้อย่างไม่ย่อท้อ จนกลายมาเป็นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ และสามารถคว้าแชมป์ 3 ปีซ้อนให้กับประเทศไทย ก่อนที่เด็กหนุ่มวัย 17 ปีจะขยับขยายความฝัน พาตัวเองไปวิ่งบนเส้นทางครั้งใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยว และมีซิงเกิลแรกในชีวิตที่ชื่อว่า อยู่คนเดียวมันเหงา ที่เติมเต็มให้จังหวะชีวิตของเขาสนุกกว่าที่เคย
และนี่คือเรื่องราวการเดินทางในชีวิตของ คิน ธนชัย ที่จะทำให้การอยู่คนเดียวไม่เหงาอีกต่อไป
วัยเด็กของคินเติบโตมากับความสนใจอะไรบ้าง
KIN : ตอนเด็กๆ คินชอบฟังเพลงและเล่นไอซ์สเก็ตครับ คินชอบฟังเพลง ร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก จำได้ว่าเรามีโอกาสได้ไปดูคอนเสิร์ตแล้วรู้สึกว่า เราเองก็อยากไปอยู่บนนั้นบ้างจัง ส่วนกีฬาไอซ์สเก็ต คินเคยไปลานไอซ์สเก็ตกับคุณแม่ครับ ตอนนั้นเราอยากเล่นมาก แต่ด้วยความที่เรายังเด็ก คุณแม่ก็เลยเป็นห่วงว่า เราจะเล่นได้ไหม พอประมาณ 7-8 ขวบก็มีโอกาสได้ลองเล่น เราชอบมากๆ ก็เลยขอที่บ้านเรียนต่อ
แล้วมันขยับมาสู่การแข่งขันได้อย่างไร
KIN : ด้วยความที่ไอซ์เสก็ตมันแค่วิ่งไปเรื่อยๆ พอวิ่งไปถึงจุดหนึ่งเราก็เริ่มเบื่อ พอดีมีรุ่นพี่ชวนเราไปเล่นไอซ์ฮอกกี้ ซึ่งมันเปลี่ยนโลกของเราไปเลย จากที่เคยเล่นคนเดียว เราต้องเล่นเป็นทีม ต้องตีลูก มันสนุกมากครับ พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสไปแข่งที่ต่างประเทศ ตอนนั้นเราแข่งด้วยความสนุกยังไมได้จริงจังมาก จนมีการเปิดคัดตัวนักกีฬาทีมชาติ เพื่อนๆ เริ่มไปสมัครกัน เราก็ลองไปสมัครตามเพื่อน พอเราติดแล้วมีโอกาสได้ไปแข่งและได้เหรียญกลับมา มันเป็นความรู้สึกที่ว่า เราเองก็ทำได้เหมือนกัน
เสน่ห์ของกีฬาไอซ์ฮอกกี้ในสายตาของคิน
KIN : ไอซ์ฮอกกี้เป็นกีฬาที่ใช้ความเร็วและใช้ทักษะพอสมควร ในทีมจะมี 6 คน โดยเราจะแบ่งเป็นกองหน้า 3 คน และกองหลัง 3 คน ตำแหน่งที่คินเล่นจะเป็นปีกซ้ายกองหน้าครับ คินมองว่าเสน่ห์ของไอซ์ฮอกกี้ คือ มันเป็นกีฬาที่ต้องอาศัยทีมเวิร์กและการคิดแผนมากๆ การที่เราได้อยู่กับเพื่อน แพ้ด้วยกัน ชนะด้วยกัน มันเป็นสิ่งที่คินชอบมากๆ ครับ
จากนักกีฬาเยาวชนทีมชาติ กลายมาเป็นศิลปินเดี่ยวได้อย่างไร
KIN : ช่วงแข่งกีฬาซีเกมส์ปี 2562 คินถูกพูดถึงใน #นักกีฬาหล่อบอกต่อ ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับพี่หลายๆ คน พอช่วงที่โควิด-19 เริ่มระบาดทำให้แข่งกีฬาไม่ได้ ทางค่ายก็ติดต่อมาชวนให้เราไปออดิชั่น จนได้เข้ามาเป็นศิลปินในค่าย White Fox ครับ ซึ่งคินก็ใช้เวลาประมาณปีกว่าๆ ในการซ้อมร้อง ซ้อมเต้น เรียนการแสดง ทุกอย่างมันใหม่มากและสำหรับเราครับ แต่ด้วยความที่เราเคยเป็นนักกีฬามาก่อน มันทำให้เราเคยชินกับการฝึกซ้อมหนักๆ ตามตารางอยู่แล้ว และมันทำให้เราแบ่งเวลาในการเรียนและการฝึกซ้อมได้ราบรื่นด้วยครับ
แล้วตอนนี้คินยังเป็นนักกีฬาอยู่ด้วยไหม
KIN : ตอนนี้คินก็เป็นทั้งนักกีฬาและนักร้องควบคู่กันไปครับ เราอยากให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกันได้ เลยพยายามแบ่งเวลาให้ดี อย่างซ้อมกีฬาจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่หรือซ้อมดึกไปเลย กลางวันของเราก็จะหมดไปกับการเรียน ส่วนช่วงเย็นก็จะเข้าตึกไปซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงครับ ยิ่งถ้าช่วงไหนมีแข่ง เราจะบอกทางค่ายก่อน เพื่อจะได้จัดเวลาให้ไม่ชนกันครับ
ความแตกต่างระหว่างการเป็นนักกีฬาและศิลปิน
KIN : คินว่ามันต่างกันมากเลยนะ อย่างตอนเป็นนักกีฬา เราต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เพื่อไม่ให้มีผลต่อรูปแบบเกม แต่พอมาเป็นนักร้อง เราต้องดึงอารมณ์ออกมาให้่เยอะที่สุด เพื่อสื่ออารมณ์ของเพลงและสื่อสารกับคนดูครับ
แนะนำเพลง ‘อยู่คนเดียวมันเหงา’ ให้ฟังหน่อย
KIN : เพลงนี้จะมีกลิ่นอายของดนตรีแบบ 80’s-90’s และเล่าถึงช่วงเวลาที่คนสองคนเลิกรากันไป เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่เรายังมีความทรงจำกับภาพเก่าๆ อยู่ มันทำให้เราคิดถึงเขาและอยากให้เขากลับมาครับ คินว่าทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาที่เราอยู่คนเดียว อย่าง คุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าง เพื่อนก็ไม่อยู่ เราอยากเล่าถึงโมเมนต์นั้นด้วยเหมือนกันครับ
ความประทับใจเบื้องหลังการทำงานเพลง
KIN : คินมีโอกาสได้ทำงานร่วมกับพี่เวย์ (ปริญญา อินทชัย หรือ DABOYWAY) ซึ่งทำหน้าที่เป็น Executive Producer ในอัลบั้มนี้ ด้วยความที่พี่เวย์อยู่ในวงการนี้มานานและเขาก็เชี่ยวชาญด้านนี้มากๆ ตอนแรกคินก็แอบกลันะ เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาจะดุไหม (หัวเราะ)
พอได้มาทำงานด้วยกันจริงๆ แล้ว พี่เวย์น่ารักมากครับ คอยให้คำปรึกษาเราตลอดว่า เราควรจะพัฒนาเพิ่มตรงไหน อย่างช่วงแรกๆ คินอัดเสียงเท่าไหร่ก็ไม่ผ่านสักที พี่เวย์ก็พามานั่งพัก นั่งคุยกันว่า จริงๆ เราทำได้ ให้ใจเย็นๆ ก่อนอย่าเพิ่งกดดันตัวเอง พอกลับไปทำงานอีกครั้ง เราก็เลยรู้ว่า มันไม่ใช่ว่าเราทำไม่ได้ แต่เราเกร็งเกินไปเฉยๆ ครับ
ปกติแล้วคินชอบฟังดนตรีแนวไหนเป็นพิเศษไหม?
KIN : พื้นฐานคินเป็นคนที่ชอบฟังเพลงหลายแนวเหมือนกันครับ ถ้าเวลาปกติเราจะชอบฟัง Easy Listening, R&B แต่บางอารมณ์ก็จะชอบฟังเพลง hiphop บ้าง Funk บ้าง คินว่าแต่ละแนวมันก็มีเสน่ห์ของมัน พอทำเพลงเราก็อยากจะลองอะไรที่หลากหลาย ไม่อยากจำกัดแนวของตัวเองครับ อย่างเพลง อยู่คนเดียวมันเหงา ก็จะมีกลิ่นอายของดนตรี Disco, Electronic อยู่ด้วย
การถ่ายทำมิวสิกวิดีโอเพลงนี้เป็นอย่างไรบ้าง
KIN : ในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ คินมีโอกาสได้ทำงานกับพี่บาส (นัฐวุฒิ พูนพิริยะ) และพี่ออกแบบ (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) เป็นครั้งแรกครับ รู้สึกประทับใจมากๆ เพราะพี่ๆ คอยช่วยให้คำแนะนำในการถ่ายทำตลอดเลยครับ โดยในมิวสิกวิดีโอจะเล่าถึง ช่วงเวลาที่คินกับพี่ออกแบบเคยมีความสุขด้วยกัน แต่วันนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว จึงต้องไล่ตามกันไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ตามไม่ทันครับ
โมเมนต์ที่คินประทับใจที่สุดในการถ่ายทำครั้งนี้
KIN : คินชอบฉากที่เล่นไอซ์สเก็ตครับ มันเป็นฉากที่คินต้องวิ่งวนรอบพี่ออกแบบ แต่ความยากของฉากนี้ คือ คินต้องมองและสื่ออารมณ์กับพี่เขา ตอนแรกคินมั่นใจกับฉากนี้มากๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราถนัด แต่ตอนถ่ายดันสะดุดล้มก็มีครับ เราทั้งตื่นเต้นและเขินด้วย แต่ก็ต้องล้มให้หล่อนะครับ เพราะพี่เขามองอยู่ (หัวเราะ)
เบื้องหลังฉากนี้ คินมีโอกาสได้พาพี่ออกแบบลองเล่นไอซ์สเก็ตเป็นครั้งแรกด้วยครับ ด้วยความที่พี่เขาไม่เคยเล่นมาก่อน ระหว่างที่รอเปลี่ยนฉากมันก็เลยมีโมเมนต์ที่เราจับมือกันไถสเก็ตไปรอบลาน เป็ํนช่วงเวลาที่สนุกมากๆ เลยครับ
เรามีโอกาสได้รู้จักคินในฐานะนักกีฬาและนักร้องไปบ้าง แล้วตัวตนจริงๆ ของคินเป็นแบบไหน
KIN : คินมีพาร์ทของนักร้องและนักกีฬารวมกันอยู่ครับ ถ้่าเราอยู่ข้างนอก ในวันสบายๆ เราก็จะเป็นคินในแบบที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่อยากให้คนมองว่าเราเป็นศิลปินหรือนักกีฬาขนาดนั้น อย่างวันปกติคินจะชอบแต่งตัวสบายๆ ปกติคินจะชอบใส่เสื้อผ้าที่ดู Sport บ้าง Casual บ้าง แล้วแต่โอกาสครับ
วันเหงาๆ ของคินล่ะ ทำอะไรบ้าง
KIN : เปิดเพลง ‘อยู่คนเดียวมันเหงา’ ฟังครับ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ถ้าวันไหนไม่มีซ้อมหรือเรียน คินก็จะนัดเจอเพื่อนๆ หรือชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทานข้าวด้วยกันครับ แต่่ช่วงนี้เรียนเยอะ เวลาว่างก็จะน้อยหน่อยครับ
คินมองภาพในอนาคตของตัวเองไว้แบบไหน
KIN : ถ้าในบทบาทของศิลปิน คินก็อยากมีคอนเสิร์ตของตัวเอง มีแฟนคลับที่ร้องเพลงไปด้วยกัน ส่วนในพาร์ทของนักกีฬา คินก็อยากจะเป็นนักกีฬาทีมชาติที่มีโอกาสไปสร้างชื่อเสียงอยู่เรื่อยๆ ครับ
ก่อนจากกัน คินมีแนะนำให้กับคนที่กำลังไล่ตามความฝันยังไงบ้าง
KIN : อย่างแรกต้องตัดคำว่าท้อออกไปก่อนครับ เราต้องเชื่อว่าเราสามารถทำได้ และค่อยๆ แบ่งเวลาดีๆ ครับ คินว่าถ้าเราชอบอะไรมากๆ แล้วทุ่มเทให้มันมากๆ มันจะทำออกมาได้ดีครับ ค่อยๆ ใจเย็นกับตัวเอง พยายามศึกษาสิ่งนี้ให้ลึก แต่อย่าลืมถามตัวเองว่า เราทำแล้วมีความสุขไหม เราจะอยู่กับมันไปเรื่อยๆ ได้หรือเปล่า
สุดท้ายแล้ว ฝากผลงานให้ผู้อ่านได้ไปติดตามหน่อย
KIN : สำหรับใครที่ยังไม่เคยรับชมมิวสิกวิดีโอ อยู่คนเดียวมันเหงา ก็สามารถรับชมได้ที่ช่อง OfficialWhiteMusic ครับ สำหรับเพลงถัดไป คินเชื่อว่าทุกคนจะต้องเซอร์ไพรส์กับการเปลี่ยนแปลงของคินอย่างแน่นอนครับ ยังไงก็รอติดตามกันนะครับ อ๋อ! ขอฝากอินสตาแกรมของคินด้วย สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่ @kinn_ts
นอกจากนี้ คิน ยังขอฝากเพลงซิงเกิ้ลที่ 2 “ผิดกติกา” กับแนวโซลป๊อป (SOUL POP) กลิ่นอาย BITTER SWEET เพลงที่จะเล่าเรื่องราว รักสามเศร้าในมุมมองของนักกีฬา และความน่าสนใจของมิวสิกวีดีโอคือ สีสัน และแฟชั่นจัดจ้าน ที่แตกต่างออกไปจากเพลงแรก
KIN : คินชอบเพลง ผิดกติกา มากๆ ครับ พี่แอ้ม ที่แต่งเพลงนี้ให้บอกว่า เค้าได้แรงบันดาลใจมาจาก ความเป็นนักกีฬาของคิน เลยเป็นที่มาของเรื่องราวความรักมุมมองที่เชื่อมโยงกัน การเล่นกีฬา และความรักต่างก็จะมีกติกาของมัน การจะเป็นเป็นนักกีฬาที่ดีก็จะต้องเคารพกฎและกติกา ความรักก็เหมือนกันครับ ถ้าเรารู้ว่าเรามาทีหลัง ต่อให้เรารักเค้าแค่ไหน ก็ต้องถอยออกมา เอ็มวีเพลงนี้ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวคินมาก ถ่ายที่ลานไอซ์สเกต ดีใจที่ได้ร่วมงานกับ พี่บัว… พี่บัวน่ารักมากกกกก ฝากติดตามเพลง ผิดกติกา ของคินด้วยนะครับ
ติดตาม KIN ต่อได้ที่
IG : kinn_ts
FB : Kin Thanachai WHITE FOX
credit :
Photographer : Patarit Pinyopiphat
Producer : Sunicha Suparat
Text & Interview : Deejay Nilthongkum
Photographer’s Asst. : Arnon Boonrod
VDO : Arm Saengrunroj, Thanawat Pimkasemsophon
VDO Editor : Wawaa Chosita