Monica (โมนิก้า) ศิลปินคนโปรดคนใหม่กับจังหวะการร้องอันเป็นเอกลักษณ์

“ก็อยากจะรู้ว่าเธอน่ะรักฉันไหม ก็ตอนนี้ฉันคิดถึงเธอแทบขาดใจ” ถึงจะปิดวิทยุ (จริงๆ แล้วฟังผ่านแอปในโทรศัพท์) ไปสักพักแล้ว แต่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะสลัดความไพเราะของ อยากจะรู้ (Wonder) ซึ่งเนื้อเพลงและเสียงของศิลปินสาวหน้าใหม่ Monica (โมนิก้า) ยังคงต้องก้องในโสตประสาทอีกสักพัก

แม้ไม่ได้มีอาการแอบรักใครดังที่โมนิก้าบอก แต่ด้วยวิธีการร้องและทุกท้วงทำนองในงานศิลป์ชิ้นแรกของเธอ เพลงนี้ใครฟังก็เพราะ โดยเฉพาะเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของโมนิก้าซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยความที่ชื่นชอบเพลงลูกกรุง เธอจึงหยิบวิธีการร้องจากอดีตมาผสมกับรสชาติจังหวะแห่งปัจจุบัน

โดยที่ไม่รู้ตัว… เราก็เฝ้ารอผลงานต่อไปจากเธอ และมั่นใจว่าจะกลมกล่อมดังที่เรารักเพลง อยากจะรู้

เส้นทางของโมนิก้า
MONICA : จุดเริ่มต้นของโมเริ่มจากครอบครัวเป็นอันดับแรก ครอบครัวหล่อหลอมให้เรารักดนตรีตั้งแต่เราเกิด เป็นจุดเล็ก ๆ แล้วก็เป็นจุดใหญ่ในขณะเดียวกัน แล้วเราอยู่กับครอบครัวตลอดทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นการปลูกฝังเลยแหละ พอถึงช่วงเวลาของการเริ่มเข้าวัยรุ่น ช่วง ม.ปลาย ของเด็กทุกคน ก็เริ่มจะหาความฝันว่าเราควรทำอะไรดี? เป็นช่วงที่โมคิดว่า เราเริ่มอยากทำเพลงขึ้นมา ก็เริ่มแต่งเพลงตั้งแต่ตอนนั้น และมีโปรเจกต์ GMM Audition เข้ามาพอดี เราก็ส่งออดิชั่นทันที จากนั้นเราก็ได้เข้ามาอยู่ในเส้นทางอาชีพศิลปินที่ GMM Grammy

ครอบครัวที่รักเสียงดนตรี
MONICA : เขาค่อนข้างซัพพอร์ตโม เพราะชอบดนตรีกันอยู่แล้ว เมื่อก่อนคุณแม่ก็ทำงานด้านดนตรี ส่วนคุณยายชอบร้องเพลงมาก และพี่สาวก็คือเรียนสายตรงเลย ถ้าถามว่าเขาปิดกั้นไหม… คือไม่เลยนะ ซัพพอร์ตในระดับหนึ่ง แต่แรกเริ่มเดิมทีเขาไม่อยากให้เราเป็นหรอก อยากให้เราทำอย่างอื่นบ้าง ไม่งั้นในครอบครัวมันซ้ำกันไปหมด แต่เราอยากทำจริง ๆ เราก็จะดื้อ อยากทำ

เป็นศิลปินในวัยเรียน
MONICA : สำหรับโม เวลามันไม่ได้ชนกันตลอด เป็นเหมือนการฝึกการจัดการตัวเองด้วย การจัดตารางชีวิตให้ตัวเองว่าเราควรใช้ชีวิตอย่างไร มันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับอนาคตอยู่แล้ว

 

ยากไหมกับเพลงแรก
MONICA : ก็ยากพอสมควรค่ะ ต้องอดทนกับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น จากตอนแรกเราอยากทำแบบสบาย ๆ ทำแบบไม่ต้องมีสังกัด ไม่มีคนฟังก็ไม่เป็นไร แต่พอเราผ่านหลาย ๆ จุดมา เหมือนเราผ่านขั้นบันได เหมือนเล่นเกมส์ มันมีเควสให้เราทำไปเรื่อย ๆ เราอยากทำก็ต้องเริ่มทำ แล้วจะไปต่อยังไง แล้วพอเราทำเสร็จ… เรายื่นค่ายหรอ หรือถ้าเราทำเอง เราจะปล่อยกับใคร ถ้าโมทำเองก็จะมีขั้นต่อ ๆ ไปที่จะต้องเกิดขึ้น เช่น การวางตัวในโซเชียลมีเดีย การใช้สื่อ มันก็ต้องมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องแลกไปด้วย มันยากแหละ แต่ไม่ยากขนาดทำไม่ได้ ถ้าเรามีความพยายามมุ่งมั่น

พอใจกับผลงานแรก
MONICA : ตอนนี้มีคนฟังพอสมควร โมก็ดีใจ เพราะเพลงนี้ตั้งใจแต่งมาให้คนอื่นได้ร้องไปพร้อมกับเรา อย่างในเพลงบอกว่า ก็อยากจะรู้ว่าเธอน่ะ รักฉันไหม ก็ถามแหละ… ใครก็ได้ที่อยากถามว่า เธอรักฉันไหม เราเองก็รู้สึกดีที่มีคนฟังแล้วชอบ ถ้าเกิดมีคนเอาไปใช้ถามจริง อยากให้มาบอกเหมือนกันว่าเวิร์กไหม

มันมีความเป็นเพลงไทยยุคก่อน เพราะโมชอบฟังเพลงลูกกรุงมาก เป็นเพลงที่ชอบฟัง รู้สึกอิน เอื้อนเลย เรื่อย ๆ คำสวย ๆ แล้วเหมือนติดวิธีการร้อง ลูกเล่นต่าง ๆ มาจากที่บ้านด้วย พอทำเพลงก็ใส่เลยเต็มที่ ใช้ซะให้หมด รู้สึกว่าเป็นตัวโมดี มันมาจากที่บ้านด้วย ตอนสมัยเด็ก ๆ คุณปู่ คุณย่า คุณยาย เขาชอบฟังเพลงแบบนี้มากเลย

ส่วนที่ชอบที่สุด
MONICA : จริง ๆ โมชอบทุกจุดของการทำเพลงนี้ มันเป็นครั้งแรกของเรา เรารู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมันเป็นอะไรที่ใหม่มาก ท้าทายไปหมด คือเราแต่งเพลงนี้ไว้นานแล้ว แต่พอยกมาทำจริง ๆ กับโปรดิวเซอร์ (โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์) มันก็จะยากขึ้น ไม่เหมือนกับตอนที่แต่งไว้เฉย ๆ พอมีมิวสิควิดีโอก็ต้องเล่นเอง แต่งหน้า ทำผม แฮปปี้นะ สนุกมาก เสร็จแล้วก็สัมภาษณ์สนุกดีเหมือนกัน ได้เล่าเรื่องในมุมมองของเราให้คนอื่นฟัง สิ่งที่ทำให้กระแสมาในทิศทางที่ดี ต้องให้เครดิตที่ค่าย และตัวเพลงด้วย เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายด้วยตัวเพลงอยู่แล้ว

สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับโมน่าจะเป็นการถ่ายรูปและถ่ายมิวสิควิดีโอ เพราะโมไม่ได้เป็นคนที่เก่งเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะถ้าเป็นเพลง เราจะรู้สึกว่าเราเป็นคนทำขึ้นมา คุยกัน ปรึกษากัน สุดท้ายก็เสร็จ จบมาเป็นสิ่งที่เราชอบ แต่พอเป็นมิวสิควิดีโอ เป็นภาพคีย์วิชวล เราก็กังวลว่าทำได้ดีไหมคะเนี่ย กลัวว่าเราทำให้อะไร ๆ มันไม่ดีหรือเปล่า

ตอนนี้เรามั่นใจมากขึ้น
MONICA : 
มั่นใจมากขึ้นเยอะพอสมควร ตอนแรกก็ 0 ตอนนี้ก็ 2 (หัวเราะ)

 

ตัวตนที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ ในเรื่องของแฟชั่น ถ้าเราดีไซน์ออกมา
MONICA : 
ถ้าเป็นเรื่องแฟชั่น ขอไม่นิยามอะไรทั้งนั้น เพราะเราชอบทุกแบบ คือเอาทุกอย่างมารวมกันได้ โมเป็นคนชอบแต่งตัวแบบเว่อร์ไง มีความยุ่ง ๆ ไม่ได้ชอบอะไรที่เหมือนคนอื่นเขา เพราะฉะนั้นก็อธิบายไม่ได้หรอก ว่าเป็นแฟชั่นแบบไหน แต่งแล้วสวยก็พอ และต้องมั่นใจในสิ่งที่ทำ แค่นั้น

ชอบใส่เสื้อผ้าแม่ โมใส่เสื้อผ้าแม่ทุกช่วงเวลา จริง ๆ แล้ว เพราะเสื้อผ้าโมมันน้อย โมก็เปิดตู้เสื้อผ้าแม่มาใส่ สุดท้ายกลับบ้าน แม่เห็นก็โดนดุ (หัวเราะ) ทำไมเอาเสื้อผ้าแม่มาใส่ เสื้อตัวเองไม่ใส่หรือไง… ก็สวยน่ะ เสื้อผ้าคุณแม่เนี่ย แซ่บ เปรี้ยว

ทุกอย่างคือคุณแม่ ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ที่เขาคิด เข้ามาในหัวเราหมด คือครอบครัวโมทำอะไรก็ไปด้วยกันตลอดไง ดูหนังก็ดูด้วยกัน กินข้าวก็กินด้วยกัน ทำอะไรก็ทำด้วยกันทุกอย่าง อาจไม่ได้รับความคดหรือรสนยมมาโดยตรง เรียกว่าเราทำไปด้วยกัน พร้อม ๆ กันมากกว่า ทั้งตัวโม คุณแม่ และพี่สาว

นิยามงานศิลป์ของโม
MONICA : ศิลปะอยู่รอบตัว สำหรับเรา มันคืออะไรก็ได้ ไม่ต้องเป็นรูปธรรมหรือนามธรรม มันแค่เป็นสิ่งที่เรามองเห็นหรือได้ฟัง แล้วเรารู้สึกถึงคุณค่า

วัตถุดิบในการสร้างสรรค์
MONICA : เพลงนี้เป็นเพลงแรก ตั้งแต่ช่วง ม.ปลาย แต่งเพลงครั้งแรกในชีวิตเลย เราเอามาจากเรื่องรอบตัว มีส่วนที่เกิดกับตัวเราเองบ้าง กับคนอื่นบ้าง รวมถึงหนังและเพลงที่เราชอบ คิดอะไรขึ้นมาได้ก็หยิบยกมาใส่ไว้ อย่างที่ถามว่าศิลปะคืออะไร ตอนนั้นหนูแค่สงสัยว่า เธอรักฉันไหม? มันเป็นคำถามยอดฮิตอยู่แล้ว เราก็ยกขึ้นมาแต่ง

แพลนต่อไปของเรา
MONICA : เพลงแรกเหมือนเป็นเพลงฝึกซ้อมของเรา ทำได้โอเคพอสมควร แพลนในอนาคตเร็ว ๆ นี้ เราจะมีซิงเกิ้ลใหม่ออกมา มันไม่เหมือนเพลงแรก (อยากจะรู้) โดยสิ้นเชิง ถึงเพลงแรกไม่ได้เร็วมาก แต่เพลงที่สองจะเป็นเพลงที่ช้ามาก ๆ เป็นแนวสตริงที่ผสมความไทยเดิมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่การร้อง แต่สุดท้ายก็เป็นเพลงเศร้าเหมือนกัน ใครที่กำลังอกหัก แอบรักคนอื่น น่าจะอินกับเพลงนี้พอสมควร

โมไม่ได้มองเป้าหมายเป็นระยะปี ตอนนี้เรารู้สึกว่าทำให้ดีก็พอ เต็มที่กับมันก่อน แล้วเราค่อยดูว่าพัฒนาไปได้ทางไหนบ้าง แล้วเราค่อย ๆ ขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทิศทางของเราเอง

ติดตาม MONICA ได้ที่
White music

 

FB : Monica.wsk
IG : Monica.wsk


credit : 
Photographer : Patarit Pinyopiphat
Producer : Sunicha Suparat
Text & Interview : Sithipong Tiyawarakul
Photographer’s Asst. : Duangta Aunrak
VDO : Arm Saengrunroj, 
Thanawat Pimkasemsophon
VDO Editor : Wawaa Chosita