ด้วยความเปิดกว้างของวงการเดินแบบ-ถ่ายแบบ ในปัจจุบัน เราจึงมีโอกาสได้เห็นนางแบบนายแบบหน้าใหม่ๆอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละคนนั้นก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป จนสามารถลบภาพเก่าๆไปได้เลยว่า คนที่จะเป็นนางแบบ/นายแบบได้นั้น ต้องสูง ขาว ตี๋หมวยเท่านั้น และเอกลักษณ์อันโดดเด่นของวัยรุ่น 2 คนนี้ ที่เดินผ่านกันอาจจะคิดว่าพวกเขาคือชาวต่างชาติ แต่จริงๆเขาคือโมเดลไทยหน้าใหม่ที่กำลังมีผลงานให้เห็นตามสื่อต่างๆ ไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน
วา Raduwa Al-mabruk (22)
IG : raduwa
เบล Luiterford Jackson (20)
IG : g.sabale
แนะนำตัว แล้วทำอะไรกันอยู่บ้าง
วา : อายุ 22 ปี เรียนอยู่วิทยาศาสตร์ ปี4 ลาดกระบัง วาเป็นลูกครึ่ง ไทย-ลิเบีย คุณแม่เป็นไทย-เยเมน ตอนนี้ก็เดินแบบถ่ายแบบ ถ่ายMV บ้างแล้วแต่จะติดต่อมาค่ะ
เบล : อายุ 20 ปี เรียนออกแบบเครื่องแต่งกาย ปี2 ราชภัฏสวนสุนันทา เป็นลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย คุณพ่อเป็นไนจีเรียครับ ปัจจุบันก็เรียนแล้วก็เป็นโมเดลไปด้วยครับ จบแล้วอยากทำงานทางด้าน styling
เริ่มเข้าวงการได้ยังไง
วา : เริ่มเลยคือประกวด thai super model 2012 ค่ะแล้วตั้งแต่นั้นมาก็ถ่ายแบบเดินแบบมาเรื่อยๆ
เบล : ถ่ายแบบช่วงตอน ม.3 ครับแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเป็นที่รู้จักมาก จนตอนม.5 ก็เริ่มมีถ่ายงานใหญ่ขึ้นบ่อยขึ้น มีถ่าย magazine บ้าง
ได้อะไรจากวงการนี้บ้าง
วา : ให้การใช้ชีวิต การปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ๆ แต่ละกลุ่มก็แตกต่างกันไปก็ทำให้เราต้องปรับตัวเข้ากับเค้าให้ได้ รู้จักการวางตัว มีสัมมาคารวะเจอรุ่นพี่ ก็ไหว้ ช่างแต่งหน้าช่างไฟก็ไหว้หมด เราก็โตในระดับนึงเลยนะคะเมื่อเข้าวงการ
เบล : รู้สึกว่าโชคดีที่ได้อยู่ตรงนี้ เจอแต่คนดีๆ ได้ทำงานสนุกๆ ได้รู้จักกับคนที่เราเคยชอบดูเค้าในทีวีเมื่อก่อน ตอนนี้ก็ได้ร่วมงานกัน บางคนก็ได้สนิทกันไปเลยก็งงๆดี คือถ้าเราไม่ผิวสี หรือคาแรคเตอร์เราไม่ชัดแบบนี้ เราก็คงเป็นแค่เด็กเรียนแฟชั่น
ธรรมดาๆ ที่มีชีวิตเรื่อยๆเฉยๆก็เป็นได้ คงไม่มีโอกาสได้ทำแบบทุกวันนี้
อะไรบ้างที่เป็นจุดเด่นของเรา
วา : ก็คงเป็นสีผิวแล้วก็ผมหยิกค่ะ ถ้าภายนอกก็ความจริงใจ เพราะเป็นคนจริงใจกับทุกคนจริงๆไม่เสแสร้ง เพราะคิดว่าถ้าเราให้อะไรเขาไปเราก็น่าจะได้อะไรแบบนั้นกลับมาบ้างแหละ
เบล : ถ้าเป็นภายนอกก็น่าจะเป็นสีผิว หน้าตา แบบนี้คือเด่นป่ะ(ฮะๆ) แต่ถ้าเป็นภายในก็น่าจะเป็นนิสัยที่ดูขัดกับหน้าตา คือเราเป็นคนตลกมากนะ มันจะดูขัดกับหน้าเรามากๆ ใครๆก็คิดว่าหน้าแบบนี้ต้องดุ ต้องจริงจังมากๆ แต่เราเป็นคนตลกมากๆจริงๆ
มีบุคคลต้นแบบกันไหม
วา : ถ้าเรื่องการใช้ชีวิตคงเป็นคุณแม่ เพราะว่าแม่ตอนเด็กเค้าลำบากมาก เค้าก็จะสอนเราเรื่องการใช้ชีวิต การวางตัว ทุกอย่าง การเลี้ยงลูกเค้าจะดูแลลูกๆดีมากๆ คอยรับฟัง ให้เราทำในสิ่งที่เราชอบ ไม่ปิดกั้น แต่เค้าก็จะคอยดูเราอยู่ห่างๆ ถ้าที่มีชื่อเสียงหน่อยก็คงเป็นพี่เอเลี่ยนค่ะ ครั้งนึงเคยได้ดูพี่เค้าเดิน Elle fashion ก่อนวาจะเข้าวงการ ตอนนั้นคือชอบมากๆ พี่เค้าเป็นไอดอลของหนูให้ทำงานสายนี้เลย เมื่ออยู่นอก runway เค้าอาจดูธรรมดาไม่ต่างจากใคร แต่พอเดินในงานเค้าไม่เหมือนใคร โดดเด่น เดินแล้วเห็นอารมณ์ การแสดง อยากทำได้เหมือนเขาบ้าง
เบล : ถ้าที่มีอิทธิพลกับเราตั้งแต่เด็กเลยก็ lady gaga ชอบที่เค้าเก่งจริง มั่นใจ กล้าทำอะไรก็ได้ไปสุดดี ทั้งร้องและหลายๆอย่าง ยิ่งเค้าแสดงออกในเรื่องข้ามเพศด้วยก็ยิ่งชอบ ดูเป็นคุณแม่ดี เพลงที่ชอบสุดก็คือ heavy metal lover เพราะว่าดนตรีมันดี จริงๆเพลงอื่นมันมี story มากกว่า แต่เพลงนี้ชอบที่ดนตรีจริงๆ mv ก็ดีด้วย
ความต่างของการเป็นผิวสี
วา : ตอนม.1ก็มีนะเรียกไอ้ดำๆ ตอนแรกเราก็โมโหนะ แต่พอผ่านไปสักระยะนึงก็กลายเป็นที่รักของเพื่อนๆไปเอง พอม.4ก็ลงสมัครประธานนักเรียนนะคะ ได้เป็นด้วย อาจารย์เพื่อนๆก็สนับสนุน ชีวิตไม่เคยคิดอยากจะผิวขาวเลยเราพอใจแบบที่เราเป็นแบบนี้แล้ว
เบล : มีมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ ก็จะโดนล้อ ไอ้ดำๆ มาตลอด จริงๆเบลไม่ได้ซีเรียสอะไรมากนะ แต่บางทีมันก็เสียใจ ไม่ได้เสียใจที่คำว่าไอ้ดำ แต่เสียใจที่เพื่อนกันอ่ะ ไม่น่าเป็นแบบนี้ เราก็รู้นะว่าเราแตกต่าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับตัวประหลาดอะไรขนาดนั้น เบลว่าเบลโตถูกยุค สมัยนี้คนคุ้นชินกันมากกว่าสมัยก่อน ก็ไม่มีปัญหาอะ ไรมาก ตอนเด็กๆก็มีคนกล้าว่า แต่พอโตก็ไม่ค่อยละเพราะกลัวหน้าเรามั้ง (ฮะๆ)
เคยคิดอยากเหมือนเพื่อนไหม
เบล : ไม่เคยคิดอยากขาวนะ แต่ก็เคยมีคิดอยากเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เคยตอนจะเข้าม.1เอาอะไรก็ไม่รู้มาขัดๆๆ คืออยากเหมือนคนอื่นอ่ะ เวลาเดินไปไหนคนมอง คือเค้าไม่ได้ว่าอะไรเราแต่เค้ามองไง เราก็อาย ตอนจะขึ้นม.4 เราอยากเรียนโรงเรียนนึงมาก แต่อายไม่กล้าไป มาคิดตอนนี้จะอายอะไรว่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกดีกับตัวเองมากเพราะที่เราเป็นแบบนี้ทำให้เรามีโอกาสได้ทำอะไรแบบทุกวันนี้ ชอบการโดดเด่นละ 🙂
ความภูมิใจในชีวิต
วา : ภูมิใจในตัวเองที่สามารถหางานทำงานตรงนี้จ่ายค่าเทอมเองไม่ต้องขอแม่ มีเหลือก็ให้แม่ได้บ้าง ซื้อของให้แม่ให้พี่ พาไปกินอะไรอร่อยๆ มันเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เราก็ภูมิใจนะ เงินเก็บไม่มีหรอกค่ะเลี้ยงแม่หมด 555 เดี๋ยวค่อยเริ่มเก็บจริงจังกันตอนเรียนจบ
เบล : การมีวันนี้การได้ทำงานตรงนี้ คือเรามาจากจุดที่ต่ำมากๆ แล้วก้าวมายืนได้สูงขึ้นขนาดนี้ก็ภูมิใจมากๆที่มีโอกาสและทำได้ และจะทำให้ดีต่อไป
“เด็ก” สมัยนี้
วา : สมัยนี้เด็กได้ไรมาง่ายๆ อยู่กับอะไรง่ายๆ ทุกอย่างมันไวไปหมด ชอบลองอะไรที่มันรุนแรงขึ้นกว่าแต่ก่อน ต้องอย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้งมากไปควรรับฟังความเห็นคนอื่นๆบ้าง อะไรดีก็มาปรับใช้ ทำอะไรใหม่ๆให้กับโลกเรา
เบล : ทุกอย่างดูไว ดูโตไปหมด ดูได้จาก social ดูเปลี่ยนไปเร็ว ทุกอย่างดูง่ายมากๆ อะไรก็ searchเอา มันก็ไม่ได้แย่มันก็มีข้อดี แต่ข้อเสียมันก็มีด้วย เด็กก็จะมีความอดทนรอได้น้อยมาก ต้องคิดเยอะๆ ไม่ได้คิดให้เครียด เวลาจะทำอะไรก็คิดดีๆ คิดทบทวน สมัยนี้โลกมันไปไว อาชญากรอายุน้อยลงเรื่อยๆ คนฆ่ากันง่ายขึ้น
MUSIC / MOVIE
วา : ชอบฟัง rihanna coldplay beyonce ส่วนหนังชอบชอบแบบเกี่ยวกับชีวิตจริง มีเรื่องนึง ชื่อหนังอัจฉริยะโลกไม่รัก เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายอินเดียคนนึงที่เป็นอัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์ แต่ด้วยหลายๆอย่างทำให้เค้าไม่เป็นที่ยอมรับ เค้าต่อสู้เพื่อพิสูจน์ทั้งทฤษฎี และทั้งพิสูจน์ตัวเอง ดูแล้วมันให้ข้อคิดอะไรหลายอย่าง
เบล : ชอบเพลงที่มันมีจังหวะหน่อย จังหวะชัดๆ สนุกๆ ส่วนหนังที่ชอบเลยคือ one day และก็ my sassy girl ชอบดูหนังรักนะ แม้จะดูไม่เข้ากับหน้าตาเลย one day นี่เป็นเรื่องที่อยากดูมากๆ อยากดูในโรงแต่ไม่ได้ดู จนเพิ่งมาได้ดูเมื่อไม่นานมานี้ ก็ชอบมาก ชอบอารมณ์หนัง ชอบความเศร้าของหนัง
BOOK
วา : วาจะชอบอ่านหนังสือ ที่ชอบอ่านก็จะเป็นของพี่นิ้วกลม จะชอบสุดก็ The Soundtracks of My Love ที่เป็นความรักธรรมดาๆ แล้วจะมีเพลงประกอบให้ฟังคู่กับเรื่องแต่ละเรื่อง ก็อ่านไปเปิดเพลงตามไปยิ่งอินดีค่ะ
เบล : ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านเลยแต่เมื่อก่อนจะชอบอ่านพวกนิยายแจ่มใส
LOVE
วา : ไม่เคยมีแฟนเลย แต่จะมีแต่แบบพี่แบบน้อง คุยแบบไม่มีสถานะมากกว่า จะชอบฝรั่งไปเลยไม่ก็ลูกครึ่งแต่จะชอบที่นิสัยมากกว่า ชอบคนกวนๆ เป็นผู้นำเป็นผู้ใหญ่กว่า
เบล : เราตกหลุมรักคนง่าย แต่จะไม่ได้แสดงออกไปแบบเปิดเผยมาก ชอบแอบซ่อนค่อยๆรู้สึกดีๆให้กัน เป็นเพื่อนกันมองตาก็รู้กัน เป็นคนไม่ได้เรียกร้องอะไรจากใครมากมาย แต่จะค่อนข้างซีเรียสเรื่องการให้ความสำคัญนิดนึง
มองภาพอนาคตตัวเองตอน 30
วา : ตอนนั้น ขอให้มีแฟนได้แล้ว แต่งงานมีลูกเร็วก็ดีนะ 🙂 ได้ใช้ชีวิตเตรียมแผนครอบครัว แล้วก็อยากมีร้านเค้กเล็กๆเป็นของตัวเอง เอา ไว้รวมเพื่อนๆ
เบล : คงได้ทำ styling แบบที่เราอยากทำ คือเท่าที่เห็นก็รู้มาว่าเค้าทำงานยังไง เหนื่อยแค่ไหน ยังไงก็ยังอยากทำอยู่เราชอบ ยังไงอายุเท่านั้นคงต้องได้ทำบ้างแล้วแหละ คงต้องมีอะไรทำที่มั่นคงกว่าตอนนี้
Credits :
Text : Praweena fangrew
Photographer : Patarit Pinyopiphat