Open the door เปิด Netsepia fashion Cafe’ :: จิบกาแฟชมศิลปะงาน Paint บนเสื้อผ้า

    ลวดลายหลากสีสันที่ประดับลงบนผืนผ้าสีน้ำเงินเข้มของกางเกงยีนส์ ล้วนเป็นงานฝีมือแฮนด์เมด ที่ตั้งใจตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าแบบชิ้นต่อชิ้น ในร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนถนนประชาราษฏร์แห่งนี้ เนส-ชฎารัตน์ แท่งทอง  ได้รังสรรค์สถานที่ให้กลายเป็น Fashion Cafe’ ของเธอเอง ในนามของ Netsepia Fashion Cafe’ ซึ่งพร้อมเปิดรับผู้คนที่ต้องการพักผ่อนไปกับอาหาร เครื่องดื่ม และใช้ช่วงเวลาไปกับกิจกรรมงานศิลป์บนเสื้อผ้าไปพร้อม ๆ กัน…

    ย้อนกลับไปในวันที่เนสยังเป็นเด็ก วัยที่ความชอบในศิลปะของเธอถูกสร้างขึ้นและถักทอในครอบครัวที่ให้การสนับสนุน ช่วงเวลาแห่งความสุขในด้านศิลปะของเธอ มีแรงบันดาลใจสำคัญคือ “พ่อ” ที่จะคอยหอบหิ้วกระดานวาดภาพไปทุกที่ให้กับลูกสาวตัวน้อย

    “คือเนสโตมากับครอบครัวที่ชอบศิลปะอยู่แล้ว คุณพ่อเป็นคนที่จบเพาะช่าง พอมีเวลาว่างตั้งแต่เป็นเด็กอนุบาลเลย คุณพ่อก็จะเอาดินสอสี มานั่งวาดรูปด้วยกัน เวลาไปต่างจังหวัด ไปเที่ยวทะเล เราก็จะพกกระดาษ พกกระดานไปนั่งวาดรูปด้วย เหมือนเราก็เห็นคุณพ่อทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเราก็สนใจอยู่แล้วด้วย ก็เลยรู้สึกว่ามันสนุกค่ะ คือเหมือนทุกครั้งที่ไปเที่ยวก็จะได้วาดรูป ก็เลยทำให้ชอบการวาดรูปมาตั้งแต่ตอนนั้น” เนสเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของเธอ

    ช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตวัยรุ่น คือการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่ความชอบ ความฝัน และความจริงของอนาคตที่แสวงหาอาชีพในการเลี้ยงชีวิตโคจรมาเจอกัน และเป็นช่วงเวลาที่ความรักในงานศิลป์ของเธอพาเธอมาสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่

    ความชอบในเสื้อผ้าและการแต่งตัวที่เพิ่มมากขึ้นนำพาชีวิตของเนสให้เลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ในด้านแฟชั่นดีไซน์ ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น หญิงสาวกลับพบว่า การเรียนแฟชั่นดีไซน์จริง ๆ สำหรับเธอแล้ว ไม่ได้ให้โอกาสในงานวาดภาพซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรักมากเท่าที่เธอคิด แต่กลับเน้นที่การเรียนด้านงานออกแบบและการตลาดมากกว่า ถึงอย่างนั้นห้องเรียนแฟชั่นก็ให้ความรู้และประสบการณ์แก่อาชีพในอนาคตของเธอมากกว่าที่เธอคิด…

    กระแสตุ๊กตาบลายธ์ที่กลับมาบูมอีกครั้ง เปิดตลาดของคนเล่นตุ๊กตาเป็นวงกว้าง ในปี 2556 ด้วยความเป็นผู้หญิงที่ชอบตุ๊กตา เนสเองก็หลงไหลไปกับกระแสของตุ๊กตาบลายธ์ในเวลานั้นไม่แตกต่างจากคนอื่น เธอเริ่มเล่นและทำชุดให้กับตุ๊กตาของเธอเอง และโพสภาพลงในสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยความที่มีพรสวรรค์ในการออกแบบและมีพื้นฐานในการเรียนแฟชั่น “ชุดตุ๊กตา” ของเนสกลายเป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ และกระจายความนิยมออกไปอย่างรวดเร็ว

    “Netsepia เริ่มจากจุดนั้น คือเราทำชุดตุ๊กตาก่อนค่ะ เราเริ่มอยากทำชุดตุ๊กตาขาย ก็เลยสร้างแบรนด์ที่เอาชื่อเรากับสีที่เราชอบในช่วงเวลานั้นมาตั้งชื่อ แล้วก็ทำชุดตุ๊กตาที่ฉีกแนวออกจาชุดตุ๊กตาที่มันมีอยู่ในท้องตลาด เราอยากทำให้มันเป็นแนวเท่ ๆ ไม่หวานเหมือนชุดตุ๊กตาอื่น ๆ ทำให้มันดูเป็นแนวสตรีทหน่อย ให้คนสามารถหาชุดที่มันเข้าคู่กับตุ๊กตาได้ แล้วก็เอาไปขายที่งานเปิดท้ายตรงหน้า Central World ซึ่งกระแสมันก็ดีมาก เพราะว่าจะมีกลุ่มคนที่เล่นตุ๊กตาเขาก็จะชอบถ่ายรูปกับตุ๊กตาแล้วแชร์กัน มันก็เลยขายดีขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายกลายเป็นรายได้หลักตอนที่เราเรียนไปเลย”

    การแต่งตัวคู่กับตุ๊กตายังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง เมื่อเนสเองก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนความรู้สึกของตัวเองจากคนที่ทำเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาเพียงอย่างเดียว เป็นคนที่อยากมีเสื้อผ้าเหมือนกับตุ๊กตาสำหรับใส่คู่กัน ด้วยความโชคดีที่มีกลุ่มลูกค้าที่รักการแต่งตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การลงทุนในธุรกิจเสื้อผ้าของเธอจึงประสบความสำเร็จในช่วงเวลาไม่นาน

    ธุรกิจของเนสเติบโตขึ้น จนกลายเป็นการเปิดร้านอย่างจริงจัง เธอได้รับการรู้จักในฐานะของร้านที่ขายเสื้อผ้าแฟชั่น และแฟชั่นตุ๊กตา แต่สิ่งที่สร้างชื่อเสียงจริง ๆ ให้กับเธอ กลับกลายเป็นลวดลายสีสันที่ถูกเพ้นท์ลงบนเนื้อผ้ายีนส์ ลวดลายของตัวการ์ตูนดิสนีย์ที่แต่งเติมความฝันวัยเด็กของผู้คนยุค 90 ให้มาแนบชิดกับพวกเขาในฐานะเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่…

    “จริง ๆ การ Paint ลายบนกางเกงยีนส์ มันเริ่มมาจากที่เราอยากทำ อยากทดลอง Paint ของเราเองก่อนค่ะ ซึ่งก็เป็นไปในแบบสไตล์ของเรา คือไม่ได้ทำงานหวาน ๆ จำได้ว่าตัวแรกที่ Paint เลยเป็นงานที่รวมตัวร้ายของดิสนีย์ ซึ่งพอทำเสร็จเราก็เอาลงเฟซบุ๊ค ลงใน IG แล้วด้วยความที่เราเป็นร้านเสื้อผ้าแฟชั่น พอคนมาเห็นการ Paint แบบนี้ มันก็แปลกใหม่ก็เลยทำให้มีคนสนใจ อยากได้งานแบบนี้บ้าง แล้วพอเราทำเป็นดิสนีย์ มันก็ดูเป็นแนวสนุก แนวการ์ตูน คนก็เลยจะมองเราว่าส่วนใหญ่จะทำงาน รับงานเป็นแนวการ์ตูน  ก็เลยกลายเป็นเหมือนตัวตนของเราไปเลย” 

    ความเหมือนและความแตกต่างที่เต็มไปด้วยรายละเอียดซึ่งต้องใส่ใจของเสื้อผ้าตุ๊กตาและเสื้อผ้าแฮนด์เมดที่สวมใส่โดยคนสำหรับเนสแล้ว มีพื้นฐานร่วมมาจากการที่เธอเลือกเรียนด้านแฟชั่น ทั้งพัฒนาการของการออกแบบ การใช้สี รวมไปถึงการเลือกวัสดุและเนื้อผ้าที่มาประกอบเข้ากันเป็นงานออกแบบแต่ละชิ้นที่เธอบรรจงเลือกเฟ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แปรเปลี่ยนมาเป็นความ “พึงพอใจ” ของลูกค้า ที่ยากจะเห็นได้จากเสื้อผ้าของแบรนด์ท้องตลาดทั่วไป

    ความใส่ใจของเธอที่มีต่องานออกแบบนั้นไม่ได้นับรวมเพียงแค่ดีไซน์สวย หรืองานออกแบบที่เฉพาะ แต่เมื่อทำเสื้อผ้าสำหรับให้ผู้คนสวมใส่แล้ว เนสยังต้องคำนึงไปถึงความสบาย และความคล่องตัวของการสวมใส่ ที่มีรายละเอียดเข้ามามากมายไปกว่าการทำเสื้อผ้าตุ๊กตา ซึ่งไม่ต้องตอบโจทย์มากเท่ากับเสื้อผ้ามนุษย์

    คืนวันที่ผ่านไป และการเติบโตทางธุรกิจ ส่งผลให้ตลาดเสื้อผ้าที่เนสทำโตขึ้น ก่อนที่เธอจะเริ่มมองหาช่องทางธุรกิจในด้านอื่น ๆ และพัฒนางานด้านเวิร์คช็อป เพื่อเข้ามาตอบโจทย์ให้กับลูกค้าที่อยากมีเสื้อลายสวยเป็นของตัวเอง ผ่านการลงมือทำลวดลายบนเสื้อผ้าด้วยความภาคภูมิใจของผู้สวมใส่ หรือการทำลวดลายที่สร้างคุณค่าทางจิตใจบนเสื้อผ้ามอบเป็นของขวัญแก่ผู้อื่น

    การหมดลงของสัญญาเช่าร้านที่ Union Mall ไม่ได้ทำให้ธุรกิจการค้าของเนสจบลงตาม แต่เธอกลับทำความฝันที่ใหญ่ขึ้นไปอีก โดยการโยกย้ายร้านเสื้อผ้ามาประกอบเป็นส่วนหนึ่งของคาเฟ่ ที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเธอเอง…

    Netsepia fashion cafe’ ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ผู้คนเข้ามาเลือกทานอาหารและเครื่องดื่มสบาย ๆ ภายใต้บรรยากาศงานศิลปะบนเสื้อผ้าที่ประดับประดาอยู่สองฟากผนัง นอกจากนั้น เนสยังต้องการให้ที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ “All day workshop” ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา โดยลูกค้าสามารถ Walk-Inเข้ามาหัด paint เสื้อผ้าในช่วงเวลาใดก็ได้ตามความสะดวกของตัวลูกค้าเอง

    “คือเราอยากให้ลูกค้าเดินทางมาง่ายขึ้น แล้วก็มีพื้นที่ในการพักผ่อนมากขึ้น ไม่อยากให้เป็นแค่ร้านเสื้อผ้า ก็เลยย้ายร้านมาตรงนี้ ใครที่เข้ามาก็อาจจะมากินอาหาร พร้อมกับดูเสื้อผ้า ถ้าอยากได้ตัวไหนก็สามารถเลือกซื้อกลับไปได้เลย” เนสพูดถึงคอนเซปป์ร้านของเธอ

    เอกลักษณ์เด่นที่อยู่บนผลงานของ Netsepia ไม่ใช่ลวดลายการ์ตูนที่เหมือนกับต้นฉบับ แต่เป็นลายเส้นสวยงามที่วาดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยไม่สูญเสียความเป็นศิลปะในแบบของเธอเอง เนสยังได้เน้นย้ำถึงการทำงาน Paint อีกว่า การทำงานศิลปะแบบนี้แค่มีใจรักและฝึกฝนก็ทำได้ แต่การค้นหาจุดเด่นและความเป็นตัวเองต่างหากที่จะทำให้เป็นที่จดจำของผู้คน…

    ฟลามิงโก้สีสดใสในมุมธรรมชาติเล็ก ๆ ทำให้ Netsepia fashion cafe’ ยังคงความสดชื่น ภายใต้เสียงเครื่องทำกาแฟ เนสยังคงทำงานของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า สำหรับเธอแล้ว การได้เห็นความพอใจของลูกค้า ไปกับลายเสื้อที่ทุกคนถูกใจ พร้อมทั้งการรักษาศิลปะงาน Paint ให้เติบโตขึ้นไปมากกว่าเป็นงานออกแบบของชุมชนแม่บ้านอย่างที่เคยเป็นมา เป็นความอิ่มใจ

    ในฐานะของแบรนด์ Netsepia แล้ว เนสยังคงวาดลวดลายเพื่อเติมเต็มความฝันวัยเด็กให้ผู้คนต่อไป…


Credits:
Text : Thima Maipang
Photographer : Sithipong Tiyawarakul
Special thanks : Netsepia fashioncafe [096 269 5459 / เปิด 11:00 – 21:00 ]