QUARTZ สถานที่นิยามจานอาหารเป็นงานศิลป์

จิตนการสำคัญกว่าความรู้ ขนาด อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์  ผู้มากด้วยวิชายังยกย่องการมีความคิดสร้างสรรค์ผ่านวลีอมตะข้างต้น แล้วเหตุใดมื้ออาหารของเรา จะพิเศษกว่าที่เคยไม่ได้เลยหรือ…

เช่นเดียวกับการสร้างร้าน Quartz Cuisine & Cafe เป็นการผนึกกันระหว่างศิลปะและความสวยหรู เราจะเห็นทั้งการตกแต่งของอาคารทั้งด้านในและด้านนอกที่ใช้ปูนเปลือยเป็นองค์ประกอบหลัก แล้วยกระดับความเท่ด้วยสีสันผ่านการประดับแสงไฟตามมุมต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดเล็ก ๆ อีกจำนวนมาก ทั้งในการตกแต่งอาคารไปจนถึงบนจานอาหาร แน่นอนว่าผู้มาเยือนต่างรู้สึกไกลห่างจากคำว่าจำเจ ว่าไปแล้วการตกแต่งด้วยแนวคิดความดิบ เราอาจพบได้บ่อย แต่น้อยแห่งนักที่จะสามารถสร้างสรรค์จนเป็นเอกลักษณ์ โดย Quartz นั้น เหมือนคนที่เราเจอหนแรกก็ต้องจำได้และประทับใจอย่างแน่นอน

ณ โต๊ะใกล้หน้าต่างของชั้นแรก (ในร้าน Quartz มี 2 ชั้น และมีบริเวณสวนนอกร้าน ให้ลูกค้าให้เลือกจับจอง) อาหารจานแรกของเราคือ ซีซาร์สลัด เป็นการประกอบระหว่างผักสดนานาพันธุ์ โดยความพิเศษระดับแรกคือการเปลี่ยนผักคอสทั่วไปเป็นผักออแกนิกซึ่งทางร้านปลูกเองทั้งหมด (สามารถไปเดินเล่นบริเวณแปลงผักหลังร้านได้) เช่น ผักฟินเลย์ ผักเรดคอรัล ฯลฯ จากนั้นก็เพิ่มสีสันด้วยเม็ดทับทิม แรดิช มะเขือเทศ แครอท ส่วนน้ำสลัดของซีซาร์จานนี้ถูกแยกออกมา ด้วยประการนี้ผักจึงดูสดใหม่เหมือนเพิ่งออกจากสวน ในส่วนของโปรตีน ทั้งไข่ดาวออนเซนและเบคอนกรุบกรอบ ก็ถูกแยกออกมาด้วยเช่นกัน

จานถัดมาคือ คาโบนาร่า สปาเก็ตตี้ขวัญใจมหาชน ซึ่ง Quartz ก็เปล่าเสิร์ฟอย่างทั่วไป เริ่มตั้งแต่การตกแต่งจานที่ใครเห็นเป็นต้องถามว่าเหตุใดต้องไปชิดขอบจานขนาดนี้ (คำตอบนั้นไว้ให้ผู้อ่านค้นหาด้วยตัวเอง) ส่วนในเรื่องของการมิกซ์รสชาติ ก็เป็นเช่นเดียวกับสลัดเมื่อครู่ คือได้เพิ่มไข่แดงสด ๆ มาให้ลูกค้าได้คลุกเคล้าด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังเพิ่มความมันและการสัมผัสด้วยเมล็ดอัลมอนด์

ลำดับถัดมาเรากลับไปสู่โลกสีเขียวอีกครั้ง สลัดหมูย่างคุโรบุตะ ในบริเวณของสลัดซึ่งคล้ายป่าสวย ๆ ขนาดย่อมนั้นคล้ายกับซีซาร์เมื่อครู่ ทั้งผักที่ใช้และการตกแต่ง โดยพระเอกของจานนี้คือหมูดำคุโรบุตะ มั่นใจในเรื่องของการคัดสรร กัดนุ่มเคี้ยวมันอย่างพอดิบพอดี โดยทุกอย่างนั้นเพิ่มรสจัดจ้านด้วยน้ำยำสูตรลับของทางร้าน เปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ พอประมาณ แม้ผักจะเหมือนกัน แต่ความรู้สึกคนละรสกันเลยทีเดียว

ตบท้ายอาหารจานหลักด้วย แซลมอลรมควัน ต้องยอมรับว่าเป็นจานที่เท่รอบด้านมาก ๆ ไม่ใช่แค่การตกแต่งจานอย่างเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่เขาเริ่มตั้งแต่การเปิดตัว ความรู้สึกคล้ายดูรายการ WWE แล้วมีนักมวยปล้ำเปิดตัวอย่างอลังการ โดยจานแซลมอนของเราจะอยู่ในถาดและฝาครอบซึ่งทางร้านจะโชว์สเต็ปการรมควันต่อหน้าต่อตา โดยกลิ่นควันนั้นจะเป็นกลิ่นของไม้แอปเปิล ทั้งนี้ในภาคของรสชาติก็ทานสนุกไม่เสียชื่อรูปลักษณ์ รสเค็มของแซลมอล จะถูกตัดด้วยน้ำยำที่แยกไว้ ซึ่งความพิเศษของวาซาบิที่แนะให้ลองเพิ่มเข้าไปในน้ำยำด้วย ความแซ่บที่ได้จึงไม่ใช่แค่เปรี้ยวหรือเผ็ดเท่านั้น แต่ความร้อนเฉพาะทางของวาซาบิจะมาอยู่ตรงนี้ด้วย

ตลอดจนเครื่องดื่ม ที่นี่ก็ใส่ใจในรายละเอียดไม่น้อยไปกว่าอาหาร อย่าง แตงโมปั่น เนื้อแตงโมที่ถูกปั่นจนละเอียด สามารถดื่มได้ง่ายแต่ยังคงรักษาผิวสัมผัสได้ในระดับที่ลงตัว จากนั้นก็ใส่โยเกิร์ตสลับเข้าไปเป็นสีสันในแก้ว และออนท็อปด้วยมะนาวซีก สำหรับบีบเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยวดั่งใจต้องการ เช่นเดียวกับอีกแก้วของเรา มิกซ์เบอร์รีอิตาเลียนโซดา โดยแก้วนี้ก็มีมะนาวซีกให้เพิ่มรสเปรี้ยวอีกเช่นกัน เบอร์รีนานาชนิดนั้นได้แก่ สตรอว์เบอร์รี แครนเบอร์รี และบลูเบอร์รี ทั้งรสชาติและกลิ่นชวนให้รู้สึกสดชื่น ดื่มเพลิน ๆ เผลอครู่เดียวก็อยากดื่มอีกแก้วโดยไม่รู้ตัว

Time : 11:30-24:00
FB : Quartz Cuisine & Cafe

Tel : 0-2044-4446


Credits
Text & Photography : Sithipong Tiyawarakul 

QUARTZ สถานที่นิยามจานอาหารเป็นงานศิลป์
8.3Overall Score
Taste of food 8
Taste of decoration 10
Location7
Service 8